สรุปหัวข้อสำคัญของการประชุม MPN Horizons Conference 2025 – ตอน 5
EP5: Polycythemia Vera 2025:Treatment Advances and What’s Next
🩸 Polycythemia Vera (PV) คืออะไร?
PV คือโรคความผิดปกติของไขกระดูกเรื้อรัง ที่ทำให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงมากเกินไป เลือดจึงข้นหนืดขึ้น และเพิ่มความเสี่ยง ลิ่มเลือด อุดตัน เส้นเลือดสมอง และหัวใจขาดเลือด
อาการที่พบบ่อย: อ่อนเพลีย ปวดหัว เวียนหัว คันผิว เหงื่อออกกลางคืน
⭐ ทำไมต้องรักษา PV?
เพื่อลดความเสี่ยงลิ่มเลือดและบรรเทาอาการ เพราะหากไม่รักษา อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและคุณภาพชีวิตลดลง
🩺 แนวทางการรักษา PV
1) ผู้ป่วยความเสี่ยงต่ำ
(อายุต่ำกว่า 65 ปี และไม่เคยมีลิ่มเลือดอุดตัน)
• รับประทาน Aspirin ขนาดต่ำทุกวัน
• เจาะเลือด (Phlebotomy) เป็นระยะเพื่อลดจำนวนเม็ดเลือดแดง
2) ผู้ป่วยความเสี่ยงสูง
(อายุมากกว่า 65 ปี หรือเคยมีประวัติลิ่มเลือดอุดตัน)
• รับประทาน Aspirin ขนาดต่ำทุกวัน
• ใช้ยาลดจำนวนเซลล์เลือด (Cytoreductive therapy) เช่น
1. Hydroxyurea
2. Interferon เช่น Ropeginterferon alfa-2b (Besremi)
3. JAK inhibitors เช่น Ruxolitinib (Jakafi)
💊 ประสิทธิภาพของการรักษา
Hydroxyurea
• ควบคุมจำนวนเม็ดเลือดได้เร็ว
• ลดความเสี่ยงลิ่มเลือดได้ดี
• ลดขนาดม้ามได้น้อยกว่าแบบอื่น
Ropeginterferon
• ควบคุมเลือดได้ดีในระยะยาว
• ลดความเสี่ยงลิ่มเลือด
• ลดจำนวนเซลล์ที่มี JAK2 mutation ได้ตามเวลา
• ใช้ได้ในช่วงตั้งครรภ์หรือวัยเจริญพันธุ์
Ruxolitinib
• เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ทนหรือไม่ตอบสนองต่อ Hydroxyurea
• ประมาณ 55–60% ควบคุมเลือดได้ดีและรวดเร็ว
• ลดความเสี่ยงลิ่มเลือดได้ดีมาก
• ลดอาการและลดขนาดม้ามได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น คัน ปวด น้ำหนักลด ปวดศีรษะ
• ลดจำนวนเซลล์ที่มี JAK2 mutation ได้ตามเวลา
❗️ความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง (Unmet Needs) ในผู้ป่วย PV
• ผู้ป่วยจำนวนมากยังต้องเจาะเลือดบ่อย
• บางคนยังมีอาการเรื้อรัง เช่น อ่อนเพลีย คัน เวียนศีรษะ แม้ว่าควบคุมระดับเลือดได้ดีแล้ว
• ยาไม่ได้เหมาะกับผู้ป่วยทุกคน และบางชนิดอาจมีผลข้างเคียง เช่น เม็ดเลือดต่ำ เหนื่อยง่าย หรือติดเชื้อได้ง่าย
Cr: Many thanks to the Speaker MPN Advocates Network